Learning English as a Second Language and English Language Learners
ผู้เขียน สัญชัย ฮามคำไพ [1]
การเรียนรู้ภาษาใหม่ เช่น ภาษาอังกฤษ ผู้เรียนจำเป็นต้องมีพัฒนาการทางด้านทักษะการฟัง การพูด และการจดจำ ดังนั้นครูสอนภาษาจำเป็นจำเป็นจะต้องค้นหาวิธีการใหม่ๆในการใช้สอนเพื่อที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งผู้เรียนและตัวครูเอง ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับประถมศึกษา การที่นักเรียนมีแรงจูงใจ (Motivation) คือปัจจัยหลักในการเกิดการเรียนและจดจำความรู้ได้ดี
ครูอาจจะนำเอาเครื่องมือใหม่ เช่น iPod หรือ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน มามใช้ในการสอนเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์การศึกษาเพื่อทำให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียนได้ เครื่องมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กล่าวมานี้ มีความสามารถที่หลากหลาย เช่น สามารถบันทึกคำศัพท์ อัดเสียงบทสนทนาถามตอบ ใช้ตรวจสอบการออกเสียงภาษาอังกฤษ และใช้เก็บรวบรวมแบบฝึกหัดทางภาษาเพื่อเล่นและทบทวนได้เสมอ ครูอาจจะกำหนดดครงงานให้นักเรียนรวบรวมความคิดกันในกลุ่ม ว่าจะคิดสถานการณ์สนทนาในหัวข้ออะไรกันดี นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือดังกล่าวนี้ในการซ้อมพูดสื่อสารเพื่อประเมินผลระหว่างกันเองก่อน หลังจากนั้นจึงบันทึกเสียงจริง และเมื่อได้บทสนทนาที่ดีที่สุดแล้ว ก็เปลี่ยนชื่อไฟล์ให้เหมาะสม และส่งให้ครูดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตได้ ครูสามารถประเมินผลงานจากไฟล์นั้น และนักเรียนก็ยังสามารถเก็บไฟล์ไว้ฟังซ้ำได้เรื่อยๆ
![](https://i0.wp.com/images6.fanpop.com/image/photos/32900000/Paper-Black-Ipod-Touch-ipod-touch-32966237-785-841.png)
iPod
ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันนี้มีผู้อพยพเข้ามาใช้ชีวิตหรือโอนสัญชาติเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นการถาวรเป็นจำนวนมาก ประชากรใหม่เหล่านั้น บางส่วนก็มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับภาษาอังกฤษและชุมชนของประเทศใหม่อยู่ ในรัฐเนบราสก้า ได้เคยมีโครงการช่วยสอนภาษาอังกฤษชื่อ Newcomers learn local history[2] โดยใช้ iPod และเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ ในการพัฒนาทักษะทางภาษาให้กับประชากรอเมริกันที่อพยพเข้ามาใหม่ อีกครั้งเครื่องมือเหล่านั้นยังช่วยในการเรียนรู้สภาพสังคมใหม่อีกด้วย โครงการนั้น ใช้การประยุกต์ทฤษฎีหพุปัญญา (Multiple Intelligence) ด้วยการผนวกเอาสื่อต่างๆ ได้แก่ ตัวหนังสือ เสียงพูด เสียงดนตรี และภาพประกอบ มาใช้เพื่อก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนต่างชาติที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองนั้น ได้ เรียนรู้จากบทเรียนที่เน้นหัวข้อทักษะต่างๆที่จำเป็นต่อการเรียน เช่น การศึกษาวิจัย การอ่าน การเขียน และการนำเสนอผลงาน ผู้เรียนได้รับการฝึกปฏิบัติด้วยงานเดี่ยวและกลุ่ม ในหัวข้อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับชุมชนใหม่ที่อาศัยอยู่ หลังจากนั้นจึงนำเอาผลการวิจัยที่ได้มารวบรวมเข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนาเป็นรายงาน สุดท้ายจึงนำเสนอผลงานผ่านทางโปรแกรมพาวเวอร์พอยต์ นอกจากนี้ยังฝึกให้ผู้เรียนได้แทรกภาพประกอบที่มีความหมายสัมพันธ์กับการศึกษาวิจัยนั้นๆ ในโครงงานนั้น ผู้เรียนได้มีโอกาสในการใช้ iPod บันทึกเสียงต่างๆทั้งการเก็บข้อมูลหรือผลการศึกษาต่างๆ ที่พูดด้วยภาษาอังกฤษหรือภาษาแม่ของผู้เรียนเพื่อใช้ประกอบการนำเสนอโครงงานนั้นด้วย
โครงงานมีขั้นตอนการดำเนินการดังต่อไปนี้
- นำเข้าสู่บทเรียนโดยการให้ผู้เรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างชองชีวิตในวัยเด็กกับชีวิตในปัจจุบันนี้ พร้อมวิเคราะห์ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิม อะไรเป็นสาเหตุของสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้น
- ให้ลองจินตนาการถึงชีวิตในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า ว่าน่าจะเป็นอย่างไร อะไรที่เปลี่ยนไปบ้างเพราะ ปัจจัยอะไรถึงทำให้ให้ไม่เหมือนเดิมจากปัจจุบัน
- ก่อนผู้เรียนจะเริ่มโครงงานวิจัย ครูให้กรอบคำแนะนำต่างๆเบื้องต้นและเกณฑ์การประเมินผลงานที่พวกเขาจะสร้างออกมาว่าจะให้คะแนนด้านไหนบ้าง ด้วยมาตรฐานอย่างไร
- ให้นักเรียนระดมความคิดหัวข้อศึกษาวิจัยที่พวกเขาสนใจ เกี่ยวกับชุมชนในปัจจุบันที่อาศัยอยู่เมื่อเทียบกับชุมชนที่เคยอยู่มาก่อนในอีกประเทศหนึ่ง
- ฝึกให้นักเรียนใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เช่น ข้อมูลชุมชน ภาพประกอบต่างๆ และสามารถที่จะอ้างอิงได้อย่างถูกต้อง และบันทึกผลการศึกษาที่ได้ไปบนเครื่อง iPod ด้วยโปรแกรมบันทึกเสียง หรือพิมพ์ลงบนโปรแกรม Pages หรือ AppleWorks
- ให้นักเรียนถ่ายโอนไฟล์ไปไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์
- กลุ่มผู้เรียนช่วยกันสร้างงานนำเสนอโดยการใช้ข้อมูลรายงาน ภาพประกอบ และไฟล์เสียงที่เก็บมาได้
- ให้กลุ่มต่างๆออกมานำเสนอหน้าชั้น และประเมินผลงานระหว่างกลุ่มแลกเปลี่ยนกัน เพื่อให้เกิดการแก้ไขการทำงานของกลุ่มก่อนส่งผลงานสุดท้าย
- ครูจัดงานนำเสนอโดยจัดงาน ELL Family Literacy Night ที่เชิญสมาชิกในครอบครัวของนักเรียนมาชมการนำเสนอ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาดั้งเดิมของนักเรียน เพื่อทำให้ผู้ชมเข้าใจผลงานโครงการ
การที่สอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองสำหรับผู้เรียนชาวต่างชาติในสหรัฐอเมริกานั้น นอกจากครูจะมุ่งสอนทักษะภาษาเป็นหลักแล้ว ยังช่วยสร้างการรับรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนแห่งใหม่อีกด้วย การที่นำเอาเครื่องมือทางเทคโนโลยีเข้ามาใช้นั้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและมีทักษะในการเรียนที่มีประโยชน์ในชีวิตการศึกษาและดำรงชีวิตต่อไปได้
[1] ข้อมูลผู้เขียน : นายสัญชัย ฮามคำไพ เป็นนักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาภาษาอังกฤษ Ph.D. in English ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ Texas A&M University-Commerce รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา e-mail: shamcumpai@gmail.com หรือ Facebook: toto sunchai hamcumpai
[2] รายละเอียดโครงการและแผนการสอน ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://www.westernreservepublicmedia.org/education/podcasts/localhis.pdf